รีทาร์เก็ตติ้งกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ทรงพลังที่สุด ในโลกที่ผู้บริโภคเลือกดู เปรียบเทียบและลังเลก่อนตัดสินใจซื้อ ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้าเป้าหมายให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง รีทาร์เก็ตติ้งช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพิ่มอัตราการแปลงลูกค้า และเพิ่มมูลค่าโฆษณาให้สูงสุด พร้อมผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
รีทาร์เก็ตติ้งหรือบางครั้งเรียกว่า Ads Retargeting คือกลยุทธ์การโฆษณาออนไลน์ที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณมาก่อน แต่ยังไม่ได้ทำการซื้อหรือทำ Conversion ตามเป้าหมายที่คุณต้องการ บทความนี้จะอธิบายว่าการรีทาร์เก็ตคืออะไร ทำงานอย่างไร เหตุใดจึงมีประสิทธิภาพ และธุรกิจต่างๆ สามารถนำไปใช้กับแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างไร
รีทาร์เก็ตติ้ง (หรือที่รู้จักกันในชื่อ รีมาร์เก็ตติ้ง) คือเทคนิคการตลาดดิจิทัลที่แสดงโฆษณาต่อผู้ที่เคยมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณมาก่อน เช่น เข้าชมเว็บไซต์ ดูสินค้า หรือเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า เนื่องจากคนเหล่านี้รู้จักแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว โฆษณารีทาร์เก็ตติ้งจึงมีประสิทธิภาพสูงในการดึงดูดให้พวกเขากลับมาดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ การสมัครสมาชิก หรือการสมัครสมาชิก
เหตุใดการกำหนดเป้าหมายใหม่จึงได้ผล
ผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะไม่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการในครั้งแรก งานวิจัยชี้ให้เห็นว่ามีเพียง 2-5% เท่านั้นที่ซื้อสินค้าหรือดำเนินการตามที่ต้องการทันที การกำหนดเป้าหมายใหม่ช่วย:
ดึงดูดผู้ฟังที่สนใจให้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง (ผู้ที่แสดงความสนใจแล้ว)
เพิ่มการจดจำแบรนด์ผ่านการเปิดเผยซ้ำๆ
เพิ่มอัตราการแปลงโดยเตือนลูกค้าให้กลับมา
เพิ่ม ROI ของการโฆษณาให้สูงสุดโดยเน้นไปที่ผู้ที่มีแนวโน้มจะแปลงมากที่สุด
การกำหนดเป้าหมายใหม่ไม่ใช่การผลักโฆษณาอย่างสุ่มๆ แต่เป็นการเสริมสร้างเจตนาและลดความลังเล
การกำหนดเป้าหมายใหม่ทำงานอย่างไร
ผู้ใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือเพจของคุณ
รหัสการติดตาม (คุกกี้หรือพิกเซล) บันทึกพฤติกรรมของพวกเขา
ระบบสร้างกลุ่มเป้าหมายตามการกระทำของพวกเขา
โฆษณาจะแสดงต่อผู้ใช้รายเดียวกันบนแพลตฟอร์มอื่น
ผู้ใช้คลิกกลับและดำเนินการจนเสร็จสิ้น
แพลตฟอร์มที่รองรับการรีทาร์เก็ตติ้ง ได้แก่:
โฆษณา Google
เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
โฆษณา TikTok
แพลตฟอร์มโฆษณาไลน์
เครือข่ายการแสดงผลและแพลตฟอร์มโปรแกรม
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการกำหนดเป้าหมายใหม่อย่างมีประสิทธิผล
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แข็งแกร่ง นักการตลาดควรปฏิบัติตามหลักการสำคัญเหล่านี้:
แบ่งกลุ่มผู้ชมของคุณ – หลีกเลี่ยงการส่งโฆษณาเดียวกันให้กับทุกคน
ปรับแต่งข้อความ – จัดแนวโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
ใช้การกำหนดความถี่ – ป้องกันไม่ให้แสดงโฆษณาบ่อยเกินไป
ทดสอบภาพและสำเนาแบบ A/B – ปรับให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน
เสนอแรงจูงใจ – คูปองหรือข้อเสนอจำกัดเวลาจะได้ผลดีสำหรับผู้ที่ละทิ้งตะกร้าสินค้า
สร้างช่องทางการกำหนดเป้าหมายใหม่ – แสดงโฆษณาที่แตกต่างกันตามขั้นตอนของลูกค้า
ข้อดีของการทำ Retargeting
การทำ Retargeting มีประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจออนไลน์:
เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย (Conversion Rate): เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่เคยแสดงความสนใจแล้ว จึงมีแนวโน้มที่จะซื้อมากกว่ากลุ่มเป้าหมายทั่วไป
เพิ่มการรับรู้และจดจำแบรนด์ (Brand Awareness): การเห็นโฆษณาซ้ำๆ ช่วยสร้างความคุ้นเคยและความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ใช้งบประมาณโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ROI): เป็นการลงทุนไปกับกลุ่มเป้าหมายที่ “ใช่” และมีโอกาสซื้อสูง ทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า
ปรับแต่งโฆษณาได้ตรงจุด: สามารถออกแบบโฆษณาให้ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้รายนั้นสนใจเป็นพิเศษ เช่น โชว์สินค้าที่พวกเขาดูค้างไว้ หรือมอบโปรโมชั่นสำหรับสินค้าในตะกร้าที่ถูกทิ้งไว้
ตัวอย่างกรวย:
ขั้นตอนที่ 1 (การรับรู้):เตือนพวกเขาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนที่ 2 (การพิจารณา):แสดงบทวิจารณ์ คำรับรอง หรือผลประโยชน์
ขั้นตอนที่ 3 (การแปลง):เสนอส่วนลดหรือ CTA ที่แข็งแกร่ง
ประโยชน์ของการกำหนดเป้าหมายใหม่
การกำหนดเป้าหมายใหม่มีข้อดีที่ชัดเจน:
อัตราการแปลงที่สูงขึ้น
ต้นทุนต่อการแปลงที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโฆษณาแบบเย็นชา
การมองเห็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งขึ้น
ROI ที่ดีขึ้นจากงบโฆษณา
ความสามารถในการดูแลลูกค้าในระยะยาว
ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง
แม้ว่าการกำหนดเป้าหมายใหม่จะมีประสิทธิภาพ แต่แบรนด์ต่างๆ มากมายล้มเหลวเนื่องจาก:
แสดงโฆษณาเดิมซ้ำๆ นานเกินไป
ละเลยการแบ่งกลุ่ม
ไม่แยกลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว
กำหนดเป้าหมายมากเกินไปจนน่ารำคาญ
การกำหนดเป้าหมายใหม่ที่ดีนั้นมีประโยชน์ ไม่ใช่เป็นการรบกวน
การรีทาร์เก็ตติ้งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด การกำหนดเป้าหมายกลุ่มคนที่สนใจแล้วและแนะนำพวกเขากลับมาด้วยข้อความที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจเพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้า (conversion) เพิ่มยอดขาย และเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาได้อย่างมาก ไม่ว่าคุณจะบริหารร้านค้าอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจในท้องถิ่น หรือแบรนด์ที่ให้บริการ การกำหนดเป้าหมายใหม่ควรเป็นกลยุทธ์หลักในชุดเครื่องมือการตลาดดิจิทัลของคุณ
