การเพิ่มขึ้นของโซเชียลคอมเมิร์ซในการตลาดออนไลน์ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภูมิทัศน์การตลาดออนไลน์

วิถีการช้อปปิ้งของผู้คนได้พัฒนาไปอย่างมาก หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือการเติบโตของโซเชียลคอมเมิร์ซซึ่งเป็นการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมตและขายสินค้าหรือบริการโดยตรง การผสมผสานอีคอมเมิร์ซเข้ากับการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ทำให้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram, TikTok และ Pinterest กลายเป็นช่องทางการขายที่ทรงพลัง

การเพิ่มขึ้นของ Social Commerce ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภูมิทัศน์การตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาด Social Commerce ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียนและมีอัตราการเข้าถึงโซเชียลมีเดียสูงมาก

Social Commerce คืออะไร?
โซเชียลคอมเมิร์ซเป็นส่วนย่อยของอีคอมเมิร์ซที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินค้าโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย แตกต่างจากการช้อปปิ้งออนไลน์แบบเดิมที่ผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ภายนอก โซเชียลคอมเมิร์ซช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ภายในแอปเดียวกัน มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้น

เหตุใด Social Commerce จึงได้รับความนิยมมากขึ้น?
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีการมีส่วนร่วมของผู้ใช้สูง
มีผู้ใช้งานหลายพันล้านคน ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเลื่อนดู กดไลก์ และแชร์คอนเทนต์ การมีส่วนร่วมที่สูงนี้สร้างโอกาสมากมายให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายในจุดที่พวกเขาเข้าถึงอยู่แล้ว

อิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์
อินฟลูเอนเซอร์และผู้สร้างคอนเทนต์มีบทบาทสำคัญในการพาณิชย์ออนไลน์ บทวิจารณ์และคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่แท้จริงของพวกเขาช่วยสร้างความไว้วางใจ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ

คุณสมบัติ ประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบโต้ตอบ
เช่น การสตรีมสด โพสต์ที่ช็อปปิ้งได้ การแท็กสินค้า และการแชทแบบเรียลไทม์ จะช่วยยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์ ให้มีการโต้ตอบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

สะดวกและรวดเร็ว
ผู้บริโภคสามารถค้นหา ค้นคว้าและซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องออกจากแอป ช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการซื้อ ส่งผลให้มีอัตราการแปลงเป็นลูกค้าที่สูงขึ้น

ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Social Commerce ได้อย่างไร
สร้างเนื้อหาที่สามารถซื้อได้ : ใช้เครื่องมือซื้อของบนแพลตฟอร์มเพื่อแท็กผลิตภัณฑ์ในโพสต์ เรื่องราว และรีล
ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพล : ร่วมมือกับเสียงที่เชื่อถือได้เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ใช้ประโยชน์จาก Live Commerce : เป็นเจ้าภาพจัดงานถ่ายทอดสดซึ่งเจ้าภาพจะจัดแสดงและขายผลิตภัณฑ์แบบเรียลไทม์
มีส่วนร่วมกับผู้ชม : ตอบกลับความคิดเห็น ดำเนินการสำรวจความคิดเห็น และส่งเสริมเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเพื่อสร้างชุมชนและความไว้วางใจ

ผลกระทบต่อการตลาดออนไลน์:
การลดขั้นตอนการซื้อ: Social Commerce ช่วยให้กระบวนการซื้อขายง่ายและรวดเร็วขึ้น ลูกค้าสามารถค้นหา เลือกซื้อ และชำระเงินได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์

การสร้างปฏิสัมพันธ์และความไว้วางใจ: แบรนด์สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยตรงมากขึ้นผ่านการไลฟ์สด, การตอบคำถามในคอมเมนต์/แชท และการสร้างชุมชนออนไลน์ นอกจากนี้ รีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้จริงยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้สูง

การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ: แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจสามารถทำการตลาดแบบกำหนดเป้าหมาย (Hyper-target) ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์: อินฟลูเอนเซอร์ โดยเฉพาะ Nano และ Micro-influencers มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย เนื่องจากคำแนะนำของพวกเขามีความน่าเชื่อถือและเป็นธรรมชาติมากกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิม คาดว่าในปี 2025 อินฟลูเอนเซอร์กลุ่มนี้จะครองสัดส่วนกว่า 70% ของค่าใช้จ่ายการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ใน Social Commerce ของไทย

การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization): AI และข้อมูลผู้ใช้งานช่วยให้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น

อนาคตของการพาณิชย์ทางสังคม
เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไป คาดว่าโซเชียลคอมเมิร์ซจะยิ่งผสานรวมเข้ากับการปรับแต่งส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วย AI การลองสวมอุปกรณ์เสมือนจริง (AR) และการช้อปปิ้งด้วยเสียง นี่ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการช้อปปิ้งของผู้บริโภคและวิธีที่แบรนด์ต่างๆ เชื่อมโยงกับพวกเขา

โซเชียลคอมเมิร์ซกำลังนิยามภูมิทัศน์ของการตลาดออนไลน์ใหม่ สำหรับธุรกิจที่ต้องการรักษาความเกี่ยวข้องและความสามารถในการแข่งขัน การยอมรับโซเชียลคอมเมิร์ซไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น การใช้ประโยชน์จากพลังของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเพิ่มการมองเห็น เสริมสร้างความสัมพันธ์ และท้ายที่สุดก็เพิ่มยอดขายได้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น