การสตรีมสดได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ บทช่วยสอน หรือเนื้อหาเบื้องหลัง วิดีโอสดช่วยให้เชื่อมต่อกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มผลกระทบของการตลาดสดให้สูงสุด ธุรกิจต่างๆ จะต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ซึ่งเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจว่าลูกค้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับอะไร
สำหรับการตลาดออนไลน์และการไลฟ์สดขายของในประเทศไทย แพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้บ่อยและได้รับความนิยมสูง
เหตุใดการเลือกแพลตฟอร์มจึงมีความสำคัญ
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสดไม่ได้ถูกสร้างมาเท่าเทียมกันหมด แต่ละแพลตฟอร์มดึงดูดกลุ่มประชากรที่แตกต่างกัน มีคุณลักษณะเฉพาะของตัวเอง และรองรับพฤติกรรมผู้ใช้ที่หลากหลาย การเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้การมีส่วนร่วมต่ำและพลาดโอกาสแม้ว่าเนื้อหาจะมีประสิทธิภาพก็ตาม
1. รู้จักผู้ฟังของคุณ
ก่อนที่จะเลือกแพลตฟอร์ม ให้วิเคราะห์ลูกค้าเป้าหมายของคุณ:
กลุ่มอายุ : ผู้ชมที่อายุน้อยมีแนวโน้มที่จะชอบแพลตฟอร์มอย่าง TikTok หรือ Instagram Live ขณะที่กลุ่มประชากรที่มีอายุมากกว่าอาจมีส่วนร่วมบน Facebook Live หรือ YouTube มากกว่า
ความสนใจและพฤติกรรม : หากลูกค้าของคุณมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหรือเป็นผู้สร้างเนื้อหา Twitch หรือ YouTube Live อาจเหมาะสมกว่า
ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ : ในบางประเทศ แพลตฟอร์มในพื้นที่เช่น LINE Live (ญี่ปุ่น) หรือ Bigo Live (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) อาจได้รับความนิยมมากกว่า
2. แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสดยอดนิยมและจุดแข็งของพวกเขา
ต่อไปนี้คือแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ และสิ่งที่พวกเขาเป็นที่รู้จักมากที่สุด:
Facebook Live : เหมาะสำหรับการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามเพจของคุณอยู่แล้ว มีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนอย่างแข็งแกร่งและแชร์ได้ง่าย
Instagram Live : เหมาะสำหรับแบรนด์ภาพและไลฟ์สไตล์ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z ผสานรวมกับเรื่องราวเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
YouTube Live : ยอดเยี่ยมสำหรับเนื้อหาแบบยาวและแบรนด์ที่มีกลยุทธ์ที่เน้นด้านการศึกษา บทช่วยสอน หรือความบันเทิง
TikTok Live : เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้ชมวัยรุ่นด้วยเนื้อหาที่สนุกสนาน เป็นกันเอง และดำเนินเรื่องรวดเร็ว
Twitch : ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการเล่นเกม แต่มีการใช้เพิ่มมากขึ้นสำหรับช่องทางอื่นๆ เช่น ดนตรี ฟิตเนส และเทคโนโลยี
LinkedIn Live : ดีที่สุดสำหรับการตลาด B2B เว็บสัมมนา และการมีส่วนร่วมทางวิชาชีพ
3. ติดตามข้อมูลการมีส่วนร่วมของลูกค้า
ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากแพลตฟอร์มดิจิทัลของคุณเพื่อกำหนดว่าผู้ชมของคุณโต้ตอบกับช่องทางใดมากที่สุด ตัวอย่างเช่น:
พวกเขาคอมเมนท์และแชร์กันมากที่สุดที่ไหน
แพลตฟอร์มใดมีอัตราการคลิกผ่านหรืออัตราการแปลงสูงสุด?
เซสชั่นสดแบบใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอดีต?
4. ปรับเนื้อหาให้เข้ากับแพลตฟอร์ม
เมื่อคุณเลือกแพลตฟอร์มตามนิสัยของลูกค้าแล้ว ให้ปรับแต่งเนื้อหาของคุณให้เหมาะสม:
Facebook : ใช้การเล่าเรื่องและการมีส่วนร่วมโดยตรง (แบบสำรวจ คำถามและคำตอบ)
Instagram : ใช้เนื้อหาสั้นๆ ที่น่าดูและมีหัวข้อที่เป็นเทรนด์
YouTube : มุ่งเน้นเซสชั่นสดที่เจาะลึกและมีการตัดต่อที่ดี พร้อมด้วยชื่อเรื่อง SEO ที่แข็งแกร่ง
TikTok : ใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ดนตรี และติดตามความท้าทายหรือหัวข้อที่กำลังเป็นกระแส
5. กลยุทธ์หลายแพลตฟอร์ม
หากผู้ชมของคุณกระจายอยู่ในหลายแพลตฟอร์ม ให้พิจารณาถ่ายทอดสดพร้อมกันหรือใช้คลิปจากเซสชันหนึ่งเพื่อสร้างเนื้อหาเฉพาะแพลตฟอร์ม เครื่องมือเช่น StreamYard หรือ Restream สามารถช่วยออกอากาศบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ในคราวเดียว
กุญแจสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จผ่านการสตรีมสดคือการเลือกแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับนิสัยของลูกค้า อย่าทำแค่ตามกระแสเท่านั้น แต่ให้ทำในจุดที่ผู้ชมของคุณมีส่วนร่วมและมีส่วนร่วมอยู่เสมอการทำเช่นนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าข้อความของคุณไม่เพียงแต่จะถูกมองเห็น แต่ยังถูกได้ยิน ถูกใจ แชร์ และดำเนินการตามด้วย