การตลาดออนไลน์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญ ตั้งแต่ราคาสินค้า โปรโมชั่นไปจนถึงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า ปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ แต่ทรงพลังที่ผู้ขายออนไลน์หลายคนมองข้ามคือวิธีการแสดงค่าจัดส่งแม้ว่าการตั้งราคาสินค้าต่ำและเพิ่มค่าจัดส่งในขั้นตอนชำระเงินอาจดูไม่เป็นอันตราย แต่กลยุทธ์นี้กลับทำให้ร้านค้าของคุณดูมีราคาแพงขึ้นและลดอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าได้
กลยุทธ์ที่นิยมใช้มากในการตลาดออนไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า การที่ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ต้องเสียค่าส่งเพิ่ม ทำให้ราคาสินค้าโดยรวมดูน่าสนใจและคุ้มค่ากว่า แม้ว่าราคาสินค้าที่เห็นจะมีการบวกค่าส่งเข้าไปแล้วก็ตาม วันนี้เรามาดูกันว่าเหตุใดคุณจึงไม่ควรแยกค่าธรรมเนียมการจัดส่งและการรวมค่าธรรมเนียมเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มยอดขาย และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ของคุณได้อย่างไร
1. ค่าธรรมเนียมการจัดส่งที่ซ่อนอยู่ทำให้ข้อเสนอของคุณดูแพงขึ้น
ลูกค้าหลายคนละทิ้งตะกร้าสินค้าทันทีที่เห็นราคาสินค้าเพิ่มเติมที่ไม่คาดคิด เมื่อผู้ซื้อคลิกเลือกสินค้าโดยคาดหวังราคาเดียว แต่กลับพบว่ามีค่าจัดส่งเพิ่มเติมทำให้เกิดความรู้สึกเชิงลบ
ปฏิกิริยาของลูกค้ามักจะรวมถึง:
“ทำไมค่าส่งถึงแพงจัง?”
“ราคาสุดท้ายแพงกว่าที่ฉันคาดไว้”
“ร้านอื่นมีบริการจัดส่งฟรี ทำไมร้านนี้ไม่มีบริการนี้ล่ะ?”
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้สินค้าดูมีราคาแพงขึ้น แม้ว่าต้นทุนรวมจะใกล้เคียงกันก็ตาม ในทางจิตวิทยาการตลาดความโปร่งใสด้านราคาช่วยสร้างความไว้วางใจในขณะที่ค่าธรรมเนียมแอบแฝงกลับช่วยลด ความน่าเชื่อถือ
2. การกำหนดราคาแบบรวมรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้น
แทนที่จะแยกค่าจัดส่ง แบรนด์ออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จหลายแบรนด์ใช้กลยุทธ์การกำหนดราคาแบบรวมค่าจัดส่ง ซึ่งรวมค่าจัดส่งไว้ในราคาสินค้าแล้ว วิธีนี้สร้างความรู้สึกเรียบง่ายและคุ้มค่า
การกำหนดราคาแบบรวมช่วยได้เพราะว่า:
ลูกค้ารู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังซื้อสินค้าที่ไม่มีเซอร์ไพรส์พิเศษใดๆ
ราคาปรากฏตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์มากขึ้น
ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งเสริม “การจัดส่งฟรี” ได้ แม้ว่าต้นทุนจะรวมอยู่กับราคาก็ตาม
การรับรู้ว่าได้รับบางสิ่ง “ฟรี” ถือเป็นแรงกระตุ้นที่ทรงพลังในการซื้อของออนไลน์
3. ราคาเดียวช่วยลดการละทิ้งรถเข็น
สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้มีการละทิ้งตะกร้าสินค้าในร้านค้าออนไลน์คือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะค่าจัดส่ง
เมื่อรวมค่าจัดส่งแล้ว:
ลูกค้ารู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการดำเนินการชำระเงิน
ขั้นตอนการช้อปปิ้งรู้สึกราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นักช้อปจำนวนน้อยลงที่ออกจากหน้าเว็บเนื่องจากความหงุดหงิดหรือความสับสน
ราคาสุดท้ายเพียงราคาเดียวช่วยลดความยุ่งยากและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น
4. โอกาสทางการตลาดที่ดีขึ้น
การรวมต้นทุนการจัดส่งจะสร้างความยืดหยุ่นมากขึ้นในการส่งเสริมการขายและแคมเปญการตลาดออนไลน์
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถโฆษณา:
“จัดส่งฟรีทั่วประเทศ”
“ราคาครบจบในที่เดียว”
“ไม่มีค่าธรรมเนียมที่ซ่อนอยู่”
ข้อความเหล่านี้น่าสนใจและช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณได้ทันที ความโปร่งใสช่วยเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าและทำให้ข้อความทางการตลาดของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น
5. ทำให้การเปรียบเทียบราคาเป็นเรื่องง่าย
ลูกค้ามักจะเปรียบเทียบร้านค้าก่อนตัดสินใจซื้อ เมื่อร้านค้าหนึ่งแสดงราคาพื้นฐานที่ต่ำ แต่เพิ่มค่าจัดส่งในภายหลัง ขณะที่อีกร้านค้าหนึ่งแสดงราคาสุดท้ายเพียงราคาเดียว ร้านค้าอีกร้านหนึ่งมักจะรู้สึกน่าเชื่อถือมากกว่า
ราคาที่เรียบง่ายและครอบคลุมทำให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างยุติธรรม และคุณจะไม่ถูกมองว่ากำลังพยายามหลอกลวงพวกเขาอีกด้วย
แสดงราคาเต็มและรับความไว้วางใจจากลูกค้า
การไม่แยกค่าจัดส่งเป็นมากกว่ากลยุทธ์ด้านราคาเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มการแปลง เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณในตลาดออนไลน์อีกด้วย
ด้วยการนำเสนอราคาที่ชัดเจนและครบวงจร:
คุณหลีกเลี่ยงการดูแพง
คุณปรับปรุงความโปร่งใส
คุณลดจำนวนรถเข็นที่ถูกทิ้งร้าง
คุณได้รับความได้เปรียบทางการตลาด
ลูกค้าจะชื่นชมความซื่อสัตย์และความเรียบง่าย เมื่อคุณมอบสิ่งนั้น ธุรกิจออนไลน์ของคุณก็จะน่าดึงดูดใจและมีการแข่งขันมากขึ้น
